“ผมไม่รู้หรอกว่าศิลปะจะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้หรือเปล่า แต่ศิลปะมันเปลี่ยนแปลงชีวิตผมไปแล้วในตอนนี้”
หนึ่งในประโยคที่ บอน (Mue Bon) ศิลปินสตรีทอาร์ตระดับแถวหน้าของเมืองไทยอธิบายเราถึงความเปลี่ยนแปลงในชีวิตตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ที่เขาจับกระป๋องสีเพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะบนท้องถนนด้วยสีหน้าและแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัทธาและมุ่งมั่น
ถึงแม้ว่าชื่อเสียงของ Mue Bon น่าจะเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงคนรักศิลปะบ้านเรา แต่สำหรับคนทั่วไปน้อยคนนักที่จะทราบว่าเขาคือใครและมีผลงานอะไรที่น่าสนใจบ้าง แม้ว่าผู้ที่สงสัยนั้นอาจจะเคยเห็นผลงานของเขาผ่านตามาบ้างแล้วก็ตาม ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะศิลปินหนุ่มผู้นี้เลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ และทุ่มเทกับงานศิลปะเช่นเดียวกับศิลปินกราฟฟิตี้ในสมัยก่อนที่เลือกจะหลบซ่อนอยู่ในมุมมืดของสังคม และแทบจะไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้ใครรับรู้
แต่สิ่งที่เป็นเครื่องยืนยันว่าชื่อเสียงของเขานั้นยังตามหลังผลงานที่ประจักษ์อยู่มาก คือการที่ Mue Bon เป็นศิลปินไทยเพียงคนเดียวที่แบรนด์แฟชั่นระดับท็อปของโลกอย่าง Hermès เชิญไปสร้างสรรค์ดิสเพลย์หน้าร้านที่กรุงเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นความน่าภูมิใจทั้งสำหรับเขาเองและคนทำงานศิลปะบ้านเรามากเลยทีเดียว
ตลอดระยะเวลาเกือบสองชั่วโมงที่มีโอกาสได้พูดคุยกัน แทบไม่มีประโยคไหนเลยของเขาที่จะทำให้เราเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย เพราะทุกคำพูดของเขาล้วนกลั่นมาจากความเชื่อว่างานศิลปะจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของใครสักคนให้ดีขึ้นได้เช่นเดียวกับตัวเขาเองและนี่เรื่องราวตลอด 10 ปี บนเส้นทางศิลปะสู่การเป็นศิลปินสตรีทอาร์ตไทยที่ทั่วโลกให้การยอมรับของ Mue Bon